ความรู้เทคโนโลยีในโลกปัจจุบันและอนาคต
เทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต
1. คอมพิวเตอร์ (Computer) ปัจจุบันคอมพิวเตอร์พัฒนาจากยุคแรกที่เครื่องมีขนาดใหญ่ทำงานได้ช้า ความสามารถต่ำ และใช้พลังงานสูง เป็นการใช้เทคโนโลยีวงจรรวมขนาดใหญ่ในการผลิตไมโครโปรเซสเซอร์ ทำให้ประสิทธิภาพของส่วนประมวลผลของเครื่องพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีการพัฒนาหน่วยความจำให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นแต่มีราคาถูกลง ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในปัจจุบัน ตลอดจนการนำคอมพิวเตอร์ชนิดลดชุดคำสั่งมาใช้ในการออกแบบหน่วยประเมินผล ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้เร็วขึ้นโดยใช้คำสั่งพื้นฐานง่ายๆ การประมวลผลตามหลักเหตุผลของมนุษย์หรือระบบปัญญาประดิษฐ์
2. ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence ; AI) เป็นการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ให้มีความสามารถที่จะคิดแก้ปัญหา และให้เหตุผลได้เหมือนอย่างการใช้ภูมิปัญญาของมนุษย์จริง ปัจจุบันที่นักวิทยาศาสตร์ทดลองที่จะพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ให้สามารถทำงานที่มีเหตุผล โดยการเลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ ซึ่งความรู้ทางด้านนี้ถ้าได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้งาน
ต่างๆ
3. ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร (Executive Information SystemEIS) เป็นการพัฒนาระบบสารสนเทศที่สนับสนุนในงานระดับวางแผนนโยบายและกลยุทธ์ขององค์การ โดยที่ EIS จะถูกนำมาให้คำแนะนำผู้บริหารในการตัดสินใจ เมื่อประสบปัญหาแบบไม่มีโครงสร้างหรือกึ่งโครงสร้างโดย EIS เป็นระบบที่พัฒนาขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่พิเศษของผู้บริหารในด้านต่างๆเช่นสถานการณ์ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์การ รวมทั้งสถานะของคู่แข่งขันด้วย โดยที่ระบบจะต้องมีความละเอียดอ่อนตลอดจนง่ายต่อการใช้งาน เนื่องจากผู้บริหารระดับสูงจำนวนมากไม่เคยชินกับการติดต่อและสั่งงานโดยตรงกับระบบคอมพิวเตอร์
4. การจดจำเสียง (Voice Recognition) ในอนาคตนักวิทยาศาสตร์ประสบความสำเร็จในการนำความรู้ต่างๆ มาใช้สร้างระบบการจดจำเสียงก็จะสามารถสร้างประโยชน์ได้อย่างมหาศาลแก่การใช้งานคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยที่ผู้ใช้จะสามารถออกคำสั่งและตอบโต้กับคอมพิวเตอร์แทนการกดแป้นพิมพ์ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ที่ไม่เคยชินกับการใช้คอมพิวเตอร์ให้สามารถปรับตัวเข้ากับระบบได้ง่าย เช่น ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหารระดับสูง การสั่งงานระบบฐานข้อมูลต่าง ๆ และระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และขยายคุณค่าเพิ่มของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อธุรกิจ
5. การแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Data Interchange ; EDI) เป็นการส่งข้อมูลหรือข่าวสารจากระบบคอมพิวเตอร์หนึ่งไปสู่ระบบคอมพิวเตอร์อื่น โดยผ่านทางระบบสื่อสารข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยลดระยะเวลาในการทำงานของแต่ละองค์การลง โดยองค์การจะสามารถส่งและรับสารสนเทศในการดำเนินธุรกิจ เช่น ใบสั่งซื้อและใบตอบรับผ่านระบบสื่อสารโทรคมนาคมที่มีอยู่ ทำให้ทั้งผู้ส่งและผู้รับข้อมูลไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง
6. เส้นใยแก้วนำแสง (Fiber Optics) เป็นตัวกลางที่สามารถส่งข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็วโดยอาศัยการส่งสัญญาณแสงผ่านเส้นใยแก้วนำแสงที่มัดรวมกัน การนำเส้นใยแก้วนำแสงมาใช้ในการสื่อสาร นี่จะเชื่อมโยงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้มีโอกาสเข้าถึงข้อมูลและสารสนเทศต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น ปัจจุบันเทคโนโลยีเส้นใยแก้วนำแสงได้ส่งผลกระทบต่อวงการสื่อสารมวลชน และการค้าขายสินค้าผ่านระบบเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์
7. อินเตอร์เน็ต (Internet) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงไปทั่วโลก มีผู้ใช้งานหลายล้านคน และกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยที่สมาชิกสามารถติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนค้นหาข้อมูลจากห้องสมุดต่าง ๆ ได้ ในปัจจุบันได้มีหลายสถาบันให้ประเทศไทยที่เชื่อมระบบคอมพิวเตอร์กับเครือข่ายนี้ เช่น ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (Nectec) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย เป็นต้น
8. ระบบเครือข่าย (Networking System) โดยเฉพาะระบบเครือข่ายเฉพาะพื้นที่เป็นระบบสื่อสารเครือข่ายที่ใช้ในการระยะทางที่กำหนด ส่วนใหญ่จะภายในอาคารหรือในหน่วยงาน LAN จะมีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลให้สูงขึ้น รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การใช้ข้อมูลร่วมกันและการเพิ่มความเร็วในการติดต่อสื่อสาร นอกจากนี้ระบบเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลยังผลักดันให้เกิดการกระจายความรับผิดชอบในการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศไปยังผู้ใช้มากกว่าในอดีต
9. การประชุมทางไกล (Teleconference) เป็นการนำเทคโนโลยีสาขาต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องถ่ายโทรทัศน์และระบบสื่อสารโทรคมนาคมผสมผสาน เพื่อใช้สนับสนุนในการประชุมมีประสิทธิภาพ โดยผู้เข้าร่วมประชุมไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ในห้องประชุมและพื้นที่เดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดเวลาในการเดินทาง โดยเฉพาะในสภาวะการจราจรที่ติดขัด ตลอดจนผู้เข้าประชุมอยู่ในเขตที่ห่างไกลกันมาก
10. โทรทัศน์ตามสายและผ่านดาวเทียม (Cable and Sattlelite TV) การส่งสัญญาณโทรทัศน์ผ่านสื่อต่างๆไปยังผู้ชม จะมีผลทำให้ข้อมูลข่าวสารสามารถแพร่ไปได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น โดยที่ผู้ชมสามารถเข้าถึงข้อมูลจากสื่อต่างๆ ได้มากขึ้น ส่งผลให้ผู้ชมรายการมีทางเลือกมากขึ้นและสามารถตัดสินใจในทางเลือกต่าง ๆ ได้เหมาะสมขึ้น
11. เทคโนโลยีมัลติมีเดีย (MultimediaTechnology) เป็นการนำเอาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มาจัดเก็บข้อมูล หรือข่าวสารในลักษณะที่แตกต่างกันทั้งรูปภาพ ข้อความ เสียง โดยสามารถเรียกกลับมาใช้เป็นภาพเคลื่อนไหวได้ และยังสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ด้วยการประยุกต์เข้ากับความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์
12. การใช้คอมพิวเตอร์ในการฝึกอบรม (Computer Based Training) เป็นการนำเอาระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการฝึกอบรมในด้านต่าง ๆ หรือการนำเอาคอมพิวเตอร์มาช่วย"คอมพิวเตอร์ช่วยกาหรือ CAI" การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการสอนเปิดช่องทางใหม่ในการเรียนรู้ โดยส่งเสริมประสิทธิภาพการเรียนรู้ ตลอดจนปรัชญาการเรียนรู้ด้วยตนเอง
13. การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบ (Computer Aided Design ; CAD) เป็นการนำเอาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และระบบข้อมูลเข้ามาช่วยในการออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมทั้งรูปแบบหีบห่อของผลิตภัณฑ์หรือการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยทางด้านการออกแบบวิศวกรรม และสถาปัตยกรรมให้มีความเหมาะสมกับความต้องการและความเป็นจริง ตลอดจนช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานในการออกแบบ โดยเฉพาะในเรื่องของเวลา การแก้ไข และการจัดเก็บแบบ
14. การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการผลิต(Computer Aided Manufacturing ; CAM) เป็นการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการผลิตสินค้าในโรงานอุตสาหกรรม เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์จะมีความเที่ยงตรงและเชื่อถือได้ในการทำงานที่ซ้ำกัน ตลอดจนสามารถตรวจสอบรายละเอียดและข้อผิดพลาดของผลิตภัณฑ์ได้ตามมาตรฐานที่ต้องการ ซึ่งจะช่วยประหยัดระยะเวลาและแรงงาน ประการสำคัญช่วยให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์มีความสม่ำเสมอตามที่กำหนด
15. ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์(Geographic Information System ; GIS) เป็นการนำเอาระบบคอมพิวเตอร์ทางด้านรูปภาพ และข้อมูลทางภูมิศาสตร์มาจัดทำแผนที่ในบริเวณที่สนใจ GIS สามารถนำมาประยุกต์ให้เป็นประโยชน์ในการดำเนินกิจการต่าง ๆ เช่น การวางแผน กลยุทธ์ การกำหนดนโยบายการพัฒนาประเทศและท้องถิ่น การวางแผนทางการตลาด การบริหารการขนส่งการสำรวจและวางแผนป้องกันธรรมชาติการช่วยเหลือและกู้ภัย เป็นต้น
การปฏิบัติตนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ปัจจุบันความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศได้มีบทบาทที่สำคัญต่อวิถีชีวิตและสังคมของมนุษย์ เทคโนโลยีสารสนเทศได้สร้างการ เปลี่ยนแปลงและโอกาสให้แก่องค์การ เช่นเปลี่ยนโครงสร้างความสัมพันธ์และการแข่งขันในอุตสาหกรรม ปรับโครงสร้างการดำเนินงานขององค์การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและบริการ เป็นต้นเนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดรูปแบบใหม่ในการติดต่อสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลทำให้มีการพัฒนาและกระจายตัวของภูมิปัญญา ซึ่งต้องอาศัยบุคคลที่มีความรู้และความเข้าใจในการใช้งานเทคโนโลยี โดยที่ผู้บริหารจะต้องเตรียมความพร้อมสำหรับองค์การดังต่อไปนี้

ประเภทคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทหลัก คือ
1. ดิจิทัลคอมพิวเตอร์ (Digital Computer) มีการทำงานโดยการนำค่าที่เป็นเลขโดด เช่น เลขฐานสอง มาใช้ในการคำนวณ
2. แอนะล็อกคอมพิวเตอร์ (Analog Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่ทำงานโดย การนำค่าตัวแปรที่ต่อเนื่อง เช่น ค่าแรงดันไฟฟ้าในวงจรมาใช้ในการคำนวณ
3. ไฮบริดคอมพิวเตอร์ (Hybrid Computer) ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ลูกผสมระหว่างคอมพิวเตอร์สองแบบแรก แต่ในปัจจุบันนี้ เมื่อกล่าวถึงคอมพิวเตอร์เฉยๆ จะหมายถึง ดิจิทัลคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ที่นิยมใช้กัน
1. ดิจิทัลคอมพิวเตอร์ (Digital Computer) มีการทำงานโดยการนำค่าที่เป็นเลขโดด เช่น เลขฐานสอง มาใช้ในการคำนวณ
2. แอนะล็อกคอมพิวเตอร์ (Analog Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่ทำงานโดย การนำค่าตัวแปรที่ต่อเนื่อง เช่น ค่าแรงดันไฟฟ้าในวงจรมาใช้ในการคำนวณ
3. ไฮบริดคอมพิวเตอร์ (Hybrid Computer) ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ลูกผสมระหว่างคอมพิวเตอร์สองแบบแรก แต่ในปัจจุบันนี้ เมื่อกล่าวถึงคอมพิวเตอร์เฉยๆ จะหมายถึง ดิจิทัลคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ที่นิยมใช้กัน
สาเหตุที่นำคอมพิวเตอร์มาใช้งานในปัจจุบัน คือ
• คอมพิวเตอร์สามารถบันทึกข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
• คอมพิวเตอร์สามารถเก็บข้อมูลจำนวนมาก ๆ ไว้ในฐานข้อมูลและเรียกเพื่อนำมาใช้งานได้ทันที ตามความต้องการของผู้ใช้งาน
• คอมพิวเตอร์สามารถนำข้อมูลที่เก็บไว้มาคำนวณทางสถิติ แยกประเภทจัดกลุ่มทำรายงานลักษณะต่างๆ ได้โดยระบบประมวลผล ที่มีความถูกต้อง
• คอมพิวเตอร์สามารถส่งข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้อย่างรวดเร็ว
และตลอดเวลา
• คอมพิวเตอร์สามารถจัดทำเอกสารต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยอาศัยระบบประมวลคำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบสำนักงานอัตโนมัติ สร้างความสะดวกและประหยัดเวลาในการจัดทำเอกสารแต่ละชนิด
• คอมพิวเตอร์สามารถบันทึกข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
• คอมพิวเตอร์สามารถเก็บข้อมูลจำนวนมาก ๆ ไว้ในฐานข้อมูลและเรียกเพื่อนำมาใช้งานได้ทันที ตามความต้องการของผู้ใช้งาน
• คอมพิวเตอร์สามารถนำข้อมูลที่เก็บไว้มาคำนวณทางสถิติ แยกประเภทจัดกลุ่มทำรายงานลักษณะต่างๆ ได้โดยระบบประมวลผล ที่มีความถูกต้อง
• คอมพิวเตอร์สามารถส่งข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้อย่างรวดเร็ว
และตลอดเวลา
• คอมพิวเตอร์สามารถจัดทำเอกสารต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยอาศัยระบบประมวลคำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบสำนักงานอัตโนมัติ สร้างความสะดวกและประหยัดเวลาในการจัดทำเอกสารแต่ละชนิด
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในอนาคต
1.โทรศัพท์คอมพิวเตอร์

เทคโนโลยีจอแสดงผลอาจเปลี่ยนรูปโฉมไปอีกขั้นโดยมีการพัฒนาให้มีขนาดบางลง ถึงขนาดว่าสามารถม้วนพับเก็บไว้ได้ ขณะที่ใช้พลังงานน้อยลงและมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานขึ้นมาทดแทน เทคโนโลยีจอแสดงผลแบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันอย่างจอแสดงผลแอลซีดีที่ยังมี ข้อเสียตรงที่ใช้พลังงานมาก เทคโนโลยีที่จะเข้ามาทดแทนแอลซีดีในวันข้างหน้า
2. ไอเดียรถยนต์สปอร์ต 3 ล้อ แห่งปี 2020 จาก Peugeot Velocite

ไอเดีย Concept Car จาก Peugeot Velocite ออกแบบโดย Juan Calos โดยเขาได้ออกแบบรถยนต์ Peugeot สำหรับอนาคตในปี 2020 ซึ่งเป็นรถยนต์แบบ Sport 3 ล้อที่เขาได้ไอเดียมาจากรถมอเตอร์ไซต์ โดยตัวเครื่องยนต์จะใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าในระบ Low-Resistance Electric Motor ซึ่งปราศจากไอเสียและเมื่อรถวิ่งลงเขาก็จะสามารถชาร์จพลังงานให้กับรถได้อีกด้วย
3. ไอเดียคอมพิวเตอร์ข้อมือแห่งอนาคตในปี 2020 จาก Sony Nextep Computer

ไอเดียคอมพิวเตอร์แห่งอนาคตจาก Sony Nextep Computer โดยในปี 2020 เราจะมีคอมพิวเตอร์ที่มีโครงสร้างที่ยืดหยุ่นด้วยหน้าจอOLEDTouchscreenมีเทคโนโลยี Holographic Projector, Pull-Out Extra Keyboard และที่สำคัญมันจะอยู่บนข้อมือของคุณด้วย ไอเดียนี้อีก 10 ปีข้าง
4. คอมพิวเตอร์ผสมกับโคมไฟตั้งโต๊ะ (Computer Table Lamp Concept)

คอมพิวเตอร์ผสมกับโคมไฟตั้งโต๊ะ จากรูปภาพด้านบน มองดูแล้วก็ยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร? แต่แท้ที่จริงมันเป็นแนวคิดคอมพิวเตอร์ในอนาคต มองไปที่ด้านบนจะเห็นช่องใส่แผ่นซีดีรอม ควบคุมการทำงานด้วยจอแสดงผลแบบสัมพัส และมีพอร์ตเพื่อการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ คอนเซ็ปต์ของมันก็คือเป็น Media Center ที่มีทั้ง เครื่องเล่นดีวีดี อัลบัมภาพ เครื่องเสียง ทีวี และอินเตอร์เน็ต สามารถนำไปวางไว้ในห้องรับแขก เพื่อใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์อีกชิ้นหนึ่งในบ้านได้
5. เครื่องฉายภาพขนาดกระทัดรัด (Ultracompact Digital Projector)

เครื่องฉายภาพขนาดกระทัดรัด Samsung ร่วมกับ Teague นำเสนอเครื่องฉายภาพขนาดกระทัดรัด ออกแบบมาสำหรับการประชุมทางไกลผ่านกล้องวีดีโอ สามารถสั่งการผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ และเทคโนโลยี Laser Diode ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้หลายอย่าง มีการเชื่อมต่อไร้สาย และใช้งานอีเมล์
6. กล้องถ่ายดีวีดี (DVD Camcorder Concept)

กล้อง บันทึกดีวีดีถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก และมีรูปทรงที่ต่างไปจากกล้องถ่ายวีดีโอในปัจจุบัน ด้วยรูปทรงของมันทำให้สามารถปรับหมุนเลนส์กล้องได้ 360 องศา นับเป็นการปฏิวัติกล้องถ่ายวีดีโอครั้งใหญ่เลยทีเดียว
7. เครื่องเล่นเกมส์ Playstation 3

เครื่องเล่นเกมส์ Playstation 3 ออกแบบมาในรูปทรงแท่งสี่เหลี่ยมโค้งมน เน้นวัสดุที่ทำเหมือนโลหะ ทำให้ตัวเครื่องดูสวยเฉียบทีเดียว
8. แนวคิดรถยนต์ในอนาคตจากนิสสัน

แนวคิดรถยนต์ในอนาคตจากนิสสันออก แบบมาสำหรับนักวิทบาศาสตร์ นักธรณีวิทยา นักโบราณคดี หรือนักผจญภัย รถยนต์ "Nissan 4x4 Terranaut" คันนี้มีห้องโดยสารทรงกลม ที่นั่งคนขับปรับหมุนได้ 360 องศา น่าเสียดายที่เบาะสำหรับผู้โดยสารมีเพียง 1 ที่นั่งเท่านั้น
9.แขนกลไบโอนิค(TheBionicHand)

ไอ-ลิมบ์ แขนกลไบโอนิคชิ้นแรกของโลกที่ออกสู่การค้าแล้ว หลังจากใช้เวลาพัฒนาและแรงคนจำนวนมาก และพัฒนาขึ้นโดยบริษัท "ทัชไบโอนิคส์" ซึ่งแขนกลนี้มีการเชื่อมต่อที่มากมาย แต่ละนิ้วมือของแขนกลมีมอเตอร์ขับเคลื่อนเฉพาะ ทั้งนี้ปกติแขนเทียมมักดูคล้ายตะขอเกี่ยวทำให้มีข้อจำกัดในการใช้งาน แต่ไอ-ลิมบ์มีความสามารถที่มากกว่า อาทิ การหยิบจับบัตรเครดิตหรือถือถ้วยกาแฟได้ เป็นต้น
10.ไดนามิคทาวเวอร์"ตึกระฟ้าที่ทุกชั้นหมุนได้ (TheDynamicTower)

"ไดนามิคทาวเวอร์" สูง 80 ชั้นสามารถหมุนได้ 360 องศา ด้วยความเร็วที่แตกต่างกัน เป็นตึกแรกของโลกที่ทำได้ ตึกดังกล่าวออกแบบโดย เดวิด ฟิเชอร์ สถาปนิกอิตาลีและก่อสร้างในดูไบ ส่วนกรุงมอสโคว์ของรัสเซียเป็นเมืองต่อไปที่จะสร้างตึกลักษณะนี้ สำหรับตึกนี้ได้รับการออกแบบให้ใช้พลังงานลม รองรับการเป็นอาคารสำนักงาน โรงแรมและที่พักอาศัยประมาณราคาของตึกนี้อยู่ที่ 24,500 ล้านบาทโดยราคาขายห้องอยู่ที่130-1,300ล้านบาท และการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2553
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น